วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

หน้าหลัก


นครศรีธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ

แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปู

         นครศรีธรรมราช เป็นเมืองที่มีอดีตอันยาวนานมีวิวัฒนาการต่อเนื่อง ซึ่งปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงถึงการดำรงอยู่ของชุมชนตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์สืบมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านความเจริญรุ่งเรืองมาหลายยุคหลายสมัย ก่อเกิดเป็นศิลปวัฒนธรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมือง และชาวเมืองยังสืบทอดรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน

       จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเนื้อที่ประมาณ 6,214,064 ล้านไร่ หรือ 9,942,502 ตารางกิโลเมตร เป็นอันดับที่ 16 ของประเทศ ประกอบด้วยชายหาด ป่าชายเลน ตอนกลางของพื้นที่เป็นเทือกเขาทอดตัวยาวตามแนวเหนือใต้ โดยมียอดเขาหลวงเป็นยอดสูงสุด ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในแถบเทือกเขาทำให้เป็นแหล่งน้ำสำคัญ เกิดเป็นน้ำตกที่สวยงามมากมายกระจายไปแทบทุกอำเภอนครศรีธรรมราชเป็นเมืองโบราณที่มีความสําคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง และศาสนา นครศรีธรรมราชมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมาไม่น้อยกว่า 1,800 ปีมาแล้ว หลักฐานทางโบราณคดีและหลักฐานทางเอกสารที่ปรากฏในขณะนี้ยืนยันได้ว่า นครศรีธรรมราชมีกําเนิดมาแล้วตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7 เป็นอย่างน้อย มีการพบเครื่องหินที่มีตัวขวานยาวใหญ่ (บางคนเรียกว่าระนาดหิน) ที่อําเภอท่าศาลา ในยุคโลหะ ได้พบหลักฐานทางโบราณคดี คือ กลองมโหระทึกสําริด 2 ใบ ที่บ้านเกตุกาย ตําบลท่าเรือ อําเภอเมืองฯ และที่คลองคุดด้วน อําเภอฉวางคำว่า "นครศรีธรรมราช" น่าจะมาจากสร้อยพระนามของปฐมกษัตริย์ ผู้ครองนครศรีธรรมราช คือพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช คํานี้แปลความได้ว่า "นครอันงามสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม" และธรรมของราชาแห่งนครนี้ก็คือธรรมแห่งพระพุทธศาสนาพุทธศตวรรษที่ 17-19 เป็นช่วงที่นครศรีธรรมราชมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด ภายใต้




     การปกครองของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช ปัจจัยสําคัญที่ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองน่าจะเนื่องมากจากการเป็นสถานีการค้าสําคัญของคาบสมุทรไทย เป็นจุดพักถ่าย ซื้อสินค้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตกที่ดีที่สุดในเวลานั้น ประกอบกับบริเวณหาดทรายแก้วอันเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ ความศรัทธาและความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาจึงเป็นปัจจัยชักนําให้ผู้คนจากทุกสารทิศในภาคใต้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในนครศรีธรรมราชอย่างหนาแน่น ในราว พ.ศ. 1700 เศษ ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราชก็สามารถจัดการปกครองหัวเมืองรายรอบได้สําเร็จถึง 12 เมือง เรียกว่าเมืองสิบสองนักษัตรเมืองนครศรีธรรมราช หรือนครอันเป็นสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม รุ่งเรืองอยู่ประมาณร้อยกว่าปี และเสื่อมลงเมื่อยกทัพไปตีเมืองลังกา และโจรชวาถือโอกาสเข้าปล้นเมืองถึง 3 ครั้ง ประกอบกับเกิดไข้ห่าระบาด จึงเป็นเหตุให้บ้านเมืองถูกทิ้งร้างจนกระทั่งสมัยอยุธยา ผู้คนเริ่มกลับมาตั้งบ้านเมืองใหม่อีกครั้ง และนครศรีธรรมราชได้กลายมาเป็นหัวเมืองฝ่ายใต้ของราชอาณาจักรอยุธยา ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในช่วงรัชกาลที่ 5 ได้มีการแก้ไขการปกครองหัวเมืองปักษ์ใต้ใหม่ นครศรีธรรมราชได้เปลี่ยนฐานะเป็นมณฑลนครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ. 2439 จนกระทั่ง พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงได้ยุบมณฑลนครศรีธรรมราช และเปลี่ยนมาเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราชจนถึงปัจจุบัน

จังหวัดนครศรีธรรมราชแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 23 อำเภอ ได้แก่ 

- อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช                         -  อำเภอฉวาง
- อำเภอเชียรใหญ่                                           -  อำเภอขนอม 
- อำเภอปากพนัง                                            -  อำเภอนาบอน
- อำเภอชะอวด                                               -  อำเภอพรหมคีรี 
- อำเภอทุ่งสง                                                 - อำเภอบางขัน 
- อำเภอท่าศาลา                                             - อำเภอจุฬาภรณ์ 
- อำเภอร่อนพิบูลย์                                          - อำเภอถ้ำพรรณรา 
- อำเภอสิชล                                                   - อำเภอพระพรหม 
- อำเภอลานสกา                                             - อำเภอเฉลิมพระเกียรติ 
- อำเภอพิปูน                                                  - อำเภอนบพิตำ 
- อำเภอหัวไทร                                                - อำเภอช้างกลาง
- อำเภอทุ่งใหญ่ 











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น