วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

หน้าหลัก


นครศรีธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ

แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปู

         นครศรีธรรมราช เป็นเมืองที่มีอดีตอันยาวนานมีวิวัฒนาการต่อเนื่อง ซึ่งปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงถึงการดำรงอยู่ของชุมชนตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์สืบมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านความเจริญรุ่งเรืองมาหลายยุคหลายสมัย ก่อเกิดเป็นศิลปวัฒนธรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมือง และชาวเมืองยังสืบทอดรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน

       จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเนื้อที่ประมาณ 6,214,064 ล้านไร่ หรือ 9,942,502 ตารางกิโลเมตร เป็นอันดับที่ 16 ของประเทศ ประกอบด้วยชายหาด ป่าชายเลน ตอนกลางของพื้นที่เป็นเทือกเขาทอดตัวยาวตามแนวเหนือใต้ โดยมียอดเขาหลวงเป็นยอดสูงสุด ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในแถบเทือกเขาทำให้เป็นแหล่งน้ำสำคัญ เกิดเป็นน้ำตกที่สวยงามมากมายกระจายไปแทบทุกอำเภอนครศรีธรรมราชเป็นเมืองโบราณที่มีความสําคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง และศาสนา นครศรีธรรมราชมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมาไม่น้อยกว่า 1,800 ปีมาแล้ว หลักฐานทางโบราณคดีและหลักฐานทางเอกสารที่ปรากฏในขณะนี้ยืนยันได้ว่า นครศรีธรรมราชมีกําเนิดมาแล้วตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7 เป็นอย่างน้อย มีการพบเครื่องหินที่มีตัวขวานยาวใหญ่ (บางคนเรียกว่าระนาดหิน) ที่อําเภอท่าศาลา ในยุคโลหะ ได้พบหลักฐานทางโบราณคดี คือ กลองมโหระทึกสําริด 2 ใบ ที่บ้านเกตุกาย ตําบลท่าเรือ อําเภอเมืองฯ และที่คลองคุดด้วน อําเภอฉวางคำว่า "นครศรีธรรมราช" น่าจะมาจากสร้อยพระนามของปฐมกษัตริย์ ผู้ครองนครศรีธรรมราช คือพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช คํานี้แปลความได้ว่า "นครอันงามสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม" และธรรมของราชาแห่งนครนี้ก็คือธรรมแห่งพระพุทธศาสนาพุทธศตวรรษที่ 17-19 เป็นช่วงที่นครศรีธรรมราชมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด ภายใต้




     การปกครองของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช ปัจจัยสําคัญที่ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองน่าจะเนื่องมากจากการเป็นสถานีการค้าสําคัญของคาบสมุทรไทย เป็นจุดพักถ่าย ซื้อสินค้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตกที่ดีที่สุดในเวลานั้น ประกอบกับบริเวณหาดทรายแก้วอันเป็นศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ ความศรัทธาและความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาจึงเป็นปัจจัยชักนําให้ผู้คนจากทุกสารทิศในภาคใต้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในนครศรีธรรมราชอย่างหนาแน่น ในราว พ.ศ. 1700 เศษ ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราชก็สามารถจัดการปกครองหัวเมืองรายรอบได้สําเร็จถึง 12 เมือง เรียกว่าเมืองสิบสองนักษัตรเมืองนครศรีธรรมราช หรือนครอันเป็นสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม รุ่งเรืองอยู่ประมาณร้อยกว่าปี และเสื่อมลงเมื่อยกทัพไปตีเมืองลังกา และโจรชวาถือโอกาสเข้าปล้นเมืองถึง 3 ครั้ง ประกอบกับเกิดไข้ห่าระบาด จึงเป็นเหตุให้บ้านเมืองถูกทิ้งร้างจนกระทั่งสมัยอยุธยา ผู้คนเริ่มกลับมาตั้งบ้านเมืองใหม่อีกครั้ง และนครศรีธรรมราชได้กลายมาเป็นหัวเมืองฝ่ายใต้ของราชอาณาจักรอยุธยา ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในช่วงรัชกาลที่ 5 ได้มีการแก้ไขการปกครองหัวเมืองปักษ์ใต้ใหม่ นครศรีธรรมราชได้เปลี่ยนฐานะเป็นมณฑลนครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ. 2439 จนกระทั่ง พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงได้ยุบมณฑลนครศรีธรรมราช และเปลี่ยนมาเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราชจนถึงปัจจุบัน

จังหวัดนครศรีธรรมราชแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 23 อำเภอ ได้แก่ 

- อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช                         -  อำเภอฉวาง
- อำเภอเชียรใหญ่                                           -  อำเภอขนอม 
- อำเภอปากพนัง                                            -  อำเภอนาบอน
- อำเภอชะอวด                                               -  อำเภอพรหมคีรี 
- อำเภอทุ่งสง                                                 - อำเภอบางขัน 
- อำเภอท่าศาลา                                             - อำเภอจุฬาภรณ์ 
- อำเภอร่อนพิบูลย์                                          - อำเภอถ้ำพรรณรา 
- อำเภอสิชล                                                   - อำเภอพระพรหม 
- อำเภอลานสกา                                             - อำเภอเฉลิมพระเกียรติ 
- อำเภอพิปูน                                                  - อำเภอนบพิตำ 
- อำเภอหัวไทร                                                - อำเภอช้างกลาง
- อำเภอทุ่งใหญ่ 











วัดพระมหาธาตุ


วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็น มิ่งขวัญชาวเมือง นครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศานิกชน  ทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จัก กันแพร่หลายก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์  ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศ จดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้
พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์สถาปัตยกรรมแบบล้านนา มีจุดเด่นที่ยอดเจดีย์ ซึ่งหุ้มด้วยทองคำแท้ จากความเชื่อ เล่าสืบตอบกันมาว่า องค์พระธาตุประกอบด้วยทองรูปพรรณและของมีค่ามากมายจรดปลายเจดีย์ ซึ่งสิ่งของมีค่า เหล่านี้พุทธศสานิกชนนำมาถวาย แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้ตนได้พบกับนิพพาน จากคำขวัญประจำ จังหวัดเมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปข้อความว่า พระธาตุทองคำ จึงหมายถึง ยอดเจดีย์ทองของพระบรมธาตุ นั่นเอง และหากใครต้องการ ชมยอดพระธาตสีทองเหลืองอร่ามอย่างใกล้ชิด มีบริการกล้องส่องทางไกลให้ใช้บริการสนนราคาแล้ว แต่ตกลง กันว่าจะชื่นชมความงดงามนั้นนานเพียงใด ด้วยความมีชื่อเสียงและศักดิ์สิทธิ์ของพระบรมธาตุเจดีย์ ดึงดูดให้ผู้คน จากทั่วสารทิศแวะมากราบไหว้ขอพรคู่ไปกับ
พิธีปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง คือ การนำผ้าขึ้นธาตุ ตามตำนานเชื่อว่า หากใครได้นำผ้าขึ้นธาตุ และบนขอพรใน เรื่องใด จะขอให้หายเจ็บหายไข้ ขอให้ได้ลูก ขอเรื่องการงานการเรียน สิ่งนั้นก็จะเป็นจริงดังหวัง มีเรื่องเล่าว่า มีชายคน หนึ่งประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ รักษาเท่าไหร่ก็ ไม่หาย สุดท้ายพ่อแม่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงมาบนและนำผ้าขึ้นธาตุที่ พระบรมธาตุ ขอให้ลูกชายหายจากอาการป่วยและหากหายจะ ให้มาบวชที่วัดพระธาตุ ในไม่ช้าชายหนุ่มคนดังกล่าว ก็หายวันหายคืน จนกลับมาเดินได้เป็นปกติในทุกปีช่วงวันมาฆและวันวิสาขบูชา จะจัดงานแห่ผ้าขึ้นธาตุซึ่งถือเป็น งาน บุญประจำปีที่มีผู้คนจากทั่วสารทิศมาร่วมสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่นี้ความ มหัศจรรย์อย่างหนึ่งของ องค์พระบรมธาตุ คือ องค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางใด ซึ่งยังไม่มี ใครหาคำตอบได้ว่าเป็น เพราะอะไร จากความมหัศจรรย์นี้ ท.ท.ท. จึงให้เจดีย์นี้เป็น 1 ใน unseen Thailand ของเมืองไทย

นอกจากพระบรมธาตุเแล้วเจดีย์องค์เล็กที่รายล้อมรอบองค์พระธาตุมากมายเป็นสิงที่แปลกตาแก่นักท่องเที่ยว ที่ได้พบเห็น เจดีย์นี้เรียกว่า องค์เจดีย์บริวาร ซึ่งมีทั้งหมด 149 องค์เจดีย์บริวาร คือ เจดีย์ที่ลูกหลานบรรพบุรุษ ได้สร้างไว้สืบต่อกัน มาเรื่อยๆเพื่อบรรจุอัฐิของญาติ ผู้ล่วงลับไปแล้วโดยอธิษฐานว่าขอให้ญาติของตนได้มาเกิด ในศาสนา ของพระพุทธองค์อีกครั้งในภพหน้า นอกจากความหัศจรรย์ของ พระธาตุไร้เงาแล้ว เจดีย์บริวารที่ เรียงราย ล้อมรอบองค์พระบรมธาตุเป็นสิ่งมหัศจรรย์ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นจากที่ใดเช่นกัน










หมู่บ้านคีรีวงศ์


 เที่ยวลานสกา ณ หมู่บ้านคีรีวง สัมผัสอากาศดีที่สุดในไท


มานครศรีธรรมราช ถิ่นธรรมชาติทั้งที คงจะดีไม่น้อยหากจะได้เดินทางขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์ถึง ลานสกา ดินแดนที่ว่ากันว่า อากาศดีที่สุดในประเทศไทย
สำหรับจุดที่อากาศดีที่สุดของลานสกา อยู่ ณ บริเวณหมู่บ้านคีรีวง และเป็นเรื่องน่าทึ่งมากๆสำหรับบริเวณนี้ เพราะตามปกติแล้ว เกณฑ์มาตรฐานอากาศที่ดี ต้องมีสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 300 ไมครอนต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร แต่คุณภาพอากาศที่หมู่บ้านคีรีวง ลานสกา พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเพียง 9 ไมครอนต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีอากาศที่บริสุทธิ์กว่ามาตรฐานถึง 100 เท่า ดีทั้งต่อสุขภาพกาย แถมสุขภาพใจก็ยังสุขสดชื่นตามไปด้วย ได้ฟังอย่างนี้แล้ว จะไม่มาเยือนยังถิ่นอากาศดี เพื่อสูดรับอากาศดีๆ ได้อย่างไร




คนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ คงจะสังเกตุได้ว่าช่วงนี้สปาปลากำลังเป็นที่นิยม และจากการศึกษาวิจัยในเรื่อง สปาปลาพบว่า เวลาที่ปลาตอดฝ่าเท้าเราจะเหมือนการกระตุ้นเล็กๆ ด้วยไฟฟ้า เพราะที่ฝ่าเท้ามีประสาทสัมผัสจำนวนมาก ทำให้เวลาปลามาตอดก็เหมือนการกระตุ้นตามเส้นประสาทต่างๆในร่างกาย ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่เสียออกไป เพราะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ จึงทำให้ปัจจุบันบริการสปาปลาเริ่มเปิดกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งแน่นอนว่าที่นครศรีธรรมราชก็มีเหมือนกัน แต่ถ้าคุณจะนึกภาพถึงบริการสปาปลาที่นั่งบนม้านั่ง แล้วหย่อนเท้าไปในตู้กระจกสี่เหลี่ยม รอให้ปลาตัวเล็กๆ มาตอดแล้วล่ะก็ ลบภาพสปาปลาเหล่านั้นไปได้เลย




             ไม่เพียงแต่บริการนวดแบบใหม่อย่างสปาปลา ที่นครศรีธรรมราชยังโด่งดังเรื่องของบริการนวดแผนไทยแบบดั้งเดิม ซึ่งการนวดแผนไทยที่ได้รับความนิยมนี้ ก็อยู่ที่ศูนย์แพทย์แผนไทยช่องเขา อำเภอทุ่งสง
ที่ศูนย์แพทย์แผนไทยช่องเขา นั้นให้บริการนวดแผนไทย บำบัดรักษาโรคด้วยวิธีทางธรรมชาติ และ ภูมิปัญญาไทย รักษาโรคเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงโรคที่รักษาได้ยาก อย่างโรคอัมพฤก อัมพาต ซึ่งมีผู้ป่วยมารับการรักษาแล้วหายจริง ที่ควรบอกต่อกับผู้รักสุขภาพทั้งหลาย
นอกเหนือจากการบำบัดโรคด้วยภูมิปัญญาไทยแล้ว ที่นี่ยังมีบริการนวดไทย กัวซาบำบัด นวดกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า อบสมุนไพร วารีบำบัด นวดน้ำมันหอมระเหย ฟาร์อินฟาร์เรด สปาหน้าและนวดศรีษะ สปาตัว ขัดตัวด้วยสมุนไพร สปาเท้าหมักโคลน เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องนวดและสปาเลยทีเดียว


              
               ว่ากันว่าการออกกำลังกาย เป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยเสริมสุขภาพให้ดีให้แข็งแรงได้ ซึ่งการออกกำลังกายง่ายๆ ก็คือการเดิน ซึ่งที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ก็ได้จัดเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติ ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ที่สองฝั่งข้างทางเต็มไปด้วยพืชพรรณแปลกตาน่าสนใจ ให้คนที่รักสุขภาพ รักการผจญภัย ได้มาเดินออกกำลังกายกัน แม้จะดูเหมือนว่าเส้นทางจะยาวไกล แต่ก็คงเป็นความสุขไม่น้อยหากจะได้เดินออกกำลังกายไปท่ามกลางธรรมชาติอัน บริสุทธิ์ที่โอบล้อม













เขาพลายดำ




เขาพลายดำ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งทะเลใต้ เป็นเขาที่มีลักษณะเป็นภูเขาที่ติดทะเลตรงแนวรอยต่อ เขตอำเภอขนอมและอำเภอสิชล อยู่ห่างจากตัวเมือง นครศรีธรรมราช ประมาณ 86 กม. เป็นทะเลที่มีธรรมชาติที่แสนสงบและมีจุดชมวิวเขาพลายดำที่สามารถเห็น อ่าวท้องยาวได้ในมุมกว้าง



สถานที่ท่องเที่ยวเขาพลายดำ




- สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่านครศรีรรมราช

- ทุ่งใสนุ่น จุดชมนกนานาชนิดในยาวเช้า - เย็น 

- หินงามรางทัด แหล่งตกปลาและสถานที่พักผ่อน 

- หาดทุ่งใส หาดทรายที่ขาวสะอาดมีทิวสนเรียงเป็นแนวยาวตลอดริมหาด 

- ผาพลายดำ จุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา 

- น้ำตกหนานไผ่ ลักษณะเป็นทางลาดซึ่งเรียกว่า 'หนาน' ด้านบนของน้ำตกเป็นป่าไผ่เรียกติดปากกันว่า 'หนานไผ่'

- น้ำตกหนานเตย ก้อนหินเรียงตัวกันมองเห็นเป็นรูปร่างต่าง ๆ 

- อ่าวท้องยาง อ่าวที่มีความสวยงามท่ามกลางหุบเขา

- วังโลมา อ่าวที่ติดกับภูเขาสูงชัน ก้อนหินน้อยใหญ่เรียงรายเป็นทางยาว

- หินกอง เป็นลักษณะการเรียงตัวของหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่บนอ่าวท้องยาง มีปลาชุกชุม










- จุดชมผีเสื้อ เป็นจุดที่รวบรวมผีเสื้อหลายชนิดไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับการศึกษาทางธรรมชาติของผีเสื้อ - เขาหลัก เป็นภูเขาหินปูน ขนาดเล็ก มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ภายในเขาหลักประกอบด้วย ถ้ำ 3 แห่ง ได้แก่ ถ้ำสว่าง ภายในถ้ำเป็นห้องโถงขนาดกลาง มีหินงอก หินย้อยที่เพดาน มีช่องให้แสงสว่างเข้า สามารถมองเห็นลักษณะภายในถ้ำได้ดีบางส่วน ถ้ำไม้ค้ำ มีขนาดเล็ก ความเชื่อก่อนเข้าถ้ำ ต้องหาไม้แข็งแรงมาค้ำปากถ้ำเอาไว้ เพื่อป้องกันการปิดของปากถ้ำ ถ้ำน้ำย้อย ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อย ที่สวยงาม ซึ่งเกิดจากชั้นหินปูน ทางขึ้นจะเป็นทางชัน

- เขาฑูคาน เป็นภูเขาหินปูนขนาดเล็ก เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์เขาฑูคาน มีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

สัมผัสกิจกรรมบนเขาพลายดำ ได้แก่

- พักผ่อนหย่อนใจริมชายหาด 



- ขับรถกินลม ชมวิว สัมผัสทัศนียภาพที่งดงาม

- ขับขี่จักรยานเสือภูเขา บนเส้นทางที่ท้าทาย

- เช่าเรือไปตกปลา หรือ ลัดเลาะชมชายหาด ตามมุมต่าง ๆ ของทะเลไทย 

- ชมนกป่า สีสันสดสวย 

- เดินป่าผจญภัย ด้วยเส้นทางที่ธรรมชาติสรรสร้างมาให้อย่างท้าทาย 

- เล่นน้ำตก ชมนกน้ำ ยามบ่ายขึ้นเขา นั่งห้าง ส่องสัตว์ป่ายามค่ำคืน 

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

กำแพงเมือง







        กำแพงเมืองนครศรีธรรมราช กำแพงเมืองตามตำนานเมืองนครศรีธรรมราช สร้างหลังจากที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราชอพยพผู้คนหนีไข้ห่ามาตั้งเมืองที่หาดทรายแก้วแล้วโปรดให้สร้างขึ้น และได้รับการซ่อมแซมมาโดยลำดับ เช่น ในครั้งที่พระราเมศวรได้เสด็จตีล้านนาเมื่อ พ.ศ.1950 กำแพงเมืองได้รับการซ่อมแซมมา โดยชาวล้านนา ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อปี พ.ศ.2230 มีการซ่อมแซมกำแพงเมืองครั้งใหญ่โดยสร้างป้อมปรกการแบบ Chateau ซึ่งสามารถป้องกันปืนใหญ่แบบตะวันตกได้ และกำแพงเมืองที่เหลือในปัจจุบันที่สร้างโดยสมัยนั้น และสมัยตันกรุงรัตนโกสินทร์ ราวปี พ.ศ. 2327 ได้มีการซ่อมแซมอีกครั้งหนึ่ง โดยพระยานครศรีธรรมราช (พัด) และได้รับการบูรณะเพิ่มเติมขึ้นอีกในปี พ.ศ. 2533 เป็นครั้งสุดท้าย ปัจจุบันมีแนวกำแพงเมืองที่หลงเหลืออยู่เป็นแนวขนานไปกับคูเมืองตั้งแต่ประตูชัยเหนือหรือประตูชัยศักดิ์ ไปทางตะวันออกยาวประมาณ 100 เมตร 


              ป้อมกำแพงเมืองเวลากลางคืน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีงานประเพณีประจำปีที่นครศรีธรรมราชชมขบวนแห่นางดานที่สวยงามหาของกินหลายอย่างที่สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราช ประชาชนทั้งชาวนคร และจังหวัดใกล้เคียงต่างเดินทางมาเที่ยวชมงานกันเนืองแน่น



              กำแพงเมืองเดิมก่ออิฐถือปูนทั้งสี่ด้าน มีเชิงเทิน ใบเสมา มุมกำแพงทั้งสี่ด้านมีป้อมมุมละป้อมกำแพงทางด้านเหนือและด้านใต้มีประตูเมืองด้านละหนึ่งประตู คือ ประตูชัยเหนือ หรือ"ประตูชัยศักดิ์" และทางด้านใต้ คือ ประตูชัยให้ หรือ ประตูชัยสิทธิ์ ขนาดของเมืองวัดตามกำแพงเมืองยาว2238.50 เมตร กว้าง 456.50 เมตร ถัดออกจากแนวกำแพงเมืองเป็นคูเมือง โดยคูเมืองด้านทิศเหนือคือ คลองน้อย(หรือคลองหน้าเมืองในปัจจุบัน) ซึ่งขุดไปออกอ่าวไทย กำแพงเมืองตามตำนานเมืองนครศรีธรรมราชกล่าวสร้างหลังจากที่พระเจ้าศรรีธรรมโศกราชอพยพผู้คนหนีไข้ห่ามาตั้งเมืองที่หาดทรายแก้วแล้วโปรดให้สร้างขึ้นและได้รับการ ซ่อมแซมมาโดยลำดับ



น้ำตกสี่ขีด


สถานที่ตั้ง: 

อุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด หมู่ที่.2 ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช 80120
อุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด พื้นที่ บริเวณน้ำตกสี่ขีด อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางโพรงและป่าเขาใหญ่ ท้องที่ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงาม เช่น น้ำตก เกาะแก่ง แอ่งน้ำ โขดหิน และพันธุ์ไม้ตระกูลต่างๆ มากมาย สมควรที่จะได้รับการปรับปรุงพัฒนา ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน เป็นอย่างยิ่ง ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้กำหนดพื้นที่นี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอ สิชล และเพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายดังกล่าว อำเภอสิชล จึงรณรงค์จัดทำโครงการอนุรักษ์ป่า เพื่อชุมชนบริเวณน้ำตกสี่ขีด และเสนอกรมป่า ไม้พิจารณาจัดตั้งเป็นวนอุทยานต่อไป เพื่อเป็นการรักษาสภาพภูมิประเทศ อันสวยงามและอนุรักษ์ต้นน้ำลำธารสำหรับ ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ทางเกษตรกรรม ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียงน้ำตก ได้ถูกราษฎรบุกรุกทำลายป่า เพื่อครอบครองที่ดินอย่างกว้างขวาง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในอนาคตได้

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในอุทยาน
น้ำตกสี่ขีด อยู่ติดกับที่ทำการอุทยาน เป็นน้ำตกหินปูนไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ชั้นแรกไหลจากยอดเขาสูง 60 เมตร ไหลผ่านชั้นหินระยะทางยาว 12 กิโลเมตร มีแอ่งน้ำกว้างสามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณน้ำตกสวยงามร่มรื่นด้วยไม้กับสายน้ำ
น้ำตกหน่อตง เป็นน้ำตกที่สวยงาม ซ่อนตัวอยู่กลางป่า มีจำนวน 7 ชั้น อยู่อำเภอสิชล
ถ้ำเขาพับผ้า เป็นถ้ำหินปูนขนาดเล็กมีหินงอก หินย้อย ที่สวยงาม มีความลึกจากปากถ้ำประมาณ 60 เมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 5 กิโลเมตร
ถ้ำสวนปราง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ภายในถ้ำกว้างขวาง มีหินงอกหินย้อยอยู่ตามผนังถ้ำ มองดูเหมือนผ้าม่านขนาดใหญ่ เป็นถ้ำที่ได้รับฉายาว่า วิมานค้างคาวเนื่องจากมีค้างคาวมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ในใกล้เคียงหน่วยพิทักษ์ อุทยานที่ สข.1 (สวนปราง)

น้ำตกภูริน อยู่ห่างจากถ้ำสวนปรางประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยที่ไหลผ่านภูเขาหินปูน และถ้ำที่มีหินงอกหินย้อย นอกจากนั้นในลำห้วยยังมีปลาชนิดต่าง ๆ อาศัยอยู่จำนวนมาก
ถ้ำโครำ เป็นถ้ำหินปูน มีปากถ้ำกว้างใหญ่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน บริเวณหน่วยพิทักษ์ที่ สข.1 ปากถ้ำสามารถมองเห็นทิวทัศน์สภาพป่าเบื้องล่างที่สวยงาม และยังเป็นที่อยู่ของเลียงผา ในภาษาท้องถิ่น เรียกว่า โครำซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนที่หายาก
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นและเส้นทางเดินป่าประเภทท่องไพร สอบถามรายละเอียดและติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
อุทยานมีร้านค้าสวัสดิการและสถานที่กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว ได้แก่ บริเวณที่ทำการอุทยาน หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สข.1 (สวนปราง) และน้ำตกภูริน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีด หมู่ 2 ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช 80120
การเดินทาง จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชไปตามทางหลวงหมายเลข 401 ระยะทาง 69 กิโลเมตร ถึงสี่แยกอำเภอสิชล (สี่แยกต้นพยอม) เลี้ยวซ้ายระยะทาง 15 กิโลเมตร หรือจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ระยะทาง 52 กิโลเมตร ถึงสามแยกเขาหัวช้างเลี้ยวขวาระยะทาง 10 กิโลเมตร