นครศรีธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ
ชื่นฉ่ำธรรมชาติ
แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์
ครบสิ้นกุ้งปู
นครศรีธรรมราช
เป็นเมืองที่มีอดีตอันยาวนานมีวิวัฒนาการต่อเนื่อง
ซึ่งปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงถึงการดำรงอยู่ของชุมชนตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์สืบมาจนถึงปัจจุบัน
ผ่านความเจริญรุ่งเรืองมาหลายยุคหลายสมัย ก่อเกิดเป็นศิลปวัฒนธรรม ประติมากรรม
สถาปัตยกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมือง
และชาวเมืองยังสืบทอดรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน
จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเนื้อที่ประมาณ
6,214,064 ล้านไร่ หรือ 9,942,502 ตารางกิโลเมตร เป็นอันดับที่ 16 ของประเทศ
ประกอบด้วยชายหาด ป่าชายเลน ตอนกลางของพื้นที่เป็นเทือกเขาทอดตัวยาวตามแนวเหนือใต้
โดยมียอดเขาหลวงเป็นยอดสูงสุด
ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในแถบเทือกเขาทำให้เป็นแหล่งน้ำสำคัญ
เกิดเป็นน้ำตกที่สวยงามมากมายกระจายไปแทบทุกอำเภอนครศรีธรรมราชเป็นเมืองโบราณที่มีความสําคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ
สังคม การเมือง การปกครอง และศาสนา
นครศรีธรรมราชมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมาไม่น้อยกว่า 1,800
ปีมาแล้ว
หลักฐานทางโบราณคดีและหลักฐานทางเอกสารที่ปรากฏในขณะนี้ยืนยันได้ว่า
นครศรีธรรมราชมีกําเนิดมาแล้วตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7 เป็นอย่างน้อย
มีการพบเครื่องหินที่มีตัวขวานยาวใหญ่ (บางคนเรียกว่าระนาดหิน) ที่อําเภอท่าศาลา
ในยุคโลหะ ได้พบหลักฐานทางโบราณคดี คือ กลองมโหระทึกสําริด 2 ใบ
ที่บ้านเกตุกาย ตําบลท่าเรือ อําเภอเมืองฯ และที่คลองคุดด้วน อําเภอฉวางคำว่า
"นครศรีธรรมราช" น่าจะมาจากสร้อยพระนามของปฐมกษัตริย์ ผู้ครองนครศรีธรรมราช
คือพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช คํานี้แปลความได้ว่า
"นครอันงามสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม"
และธรรมของราชาแห่งนครนี้ก็คือธรรมแห่งพระพุทธศาสนาพุทธศตวรรษที่ 17-19 เป็นช่วงที่นครศรีธรรมราชมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด
ภายใต้
การปกครองของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช ปัจจัยสําคัญที่ก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองน่าจะเนื่องมากจากการเป็นสถานีการค้าสําคัญของคาบสมุทรไทย
เป็นจุดพักถ่าย ซื้อสินค้าระหว่างตะวันออกกับตะวันตกที่ดีที่สุดในเวลานั้น
ประกอบกับบริเวณหาดทรายแก้วอันเป็นศูนย์กลางของชุมชน
เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์
ความศรัทธาและความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาจึงเป็นปัจจัยชักนําให้ผู้คนจากทุกสารทิศในภาคใต้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในนครศรีธรรมราชอย่างหนาแน่น
ในราว พ.ศ. 1700 เศษ
ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราชก็สามารถจัดการปกครองหัวเมืองรายรอบได้สําเร็จถึง 12 เมือง
เรียกว่าเมืองสิบสองนักษัตรเมืองนครศรีธรรมราช
หรือนครอันเป็นสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม รุ่งเรืองอยู่ประมาณร้อยกว่าปี
และเสื่อมลงเมื่อยกทัพไปตีเมืองลังกา และโจรชวาถือโอกาสเข้าปล้นเมืองถึง 3 ครั้ง
ประกอบกับเกิดไข้ห่าระบาด จึงเป็นเหตุให้บ้านเมืองถูกทิ้งร้างจนกระทั่งสมัยอยุธยา
ผู้คนเริ่มกลับมาตั้งบ้านเมืองใหม่อีกครั้ง
และนครศรีธรรมราชได้กลายมาเป็นหัวเมืองฝ่ายใต้ของราชอาณาจักรอยุธยา
ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในช่วงรัชกาลที่ 5 ได้มีการแก้ไขการปกครองหัวเมืองปักษ์ใต้ใหม่
นครศรีธรรมราชได้เปลี่ยนฐานะเป็นมณฑลนครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ. 2439 จนกระทั่ง
พ.ศ. 2475 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงได้ยุบมณฑลนครศรีธรรมราช
และเปลี่ยนมาเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราชจนถึงปัจจุบัน
จังหวัดนครศรีธรรมราชแบ่งเขตการปกครองออกเป็น
23 อำเภอ ได้แก่
- อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช - อำเภอฉวาง
- อำเภอเชียรใหญ่ - อำเภอขนอม
- อำเภอปากพนัง - อำเภอนาบอน
- อำเภอชะอวด - อำเภอพรหมคีรี
- อำเภอทุ่งสง - อำเภอบางขัน
- อำเภอท่าศาลา - อำเภอจุฬาภรณ์
- อำเภอร่อนพิบูลย์ - อำเภอถ้ำพรรณรา
- อำเภอสิชล - อำเภอพระพรหม
- อำเภอลานสกา - อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
- อำเภอพิปูน - อำเภอนบพิตำ
- อำเภอหัวไทร - อำเภอช้างกลาง
- อำเภอทุ่งใหญ่